เด็กส่วนใหญ่ไม่ชอบเรียนหนังสือ

ไม่เชื่อลองนึกย้อนไปตอนที่คุณเป็นนักเรียนดูสิครับ

การสอบทุกครั้งล้วนเป็นเรื่องยากลำบาก ผมเชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่ยังจำได้แน่นอนว่าประสบการณ์สมัยที่เรายังเป็นนักเรียนนั้นเป็นยังไง

ลูกของคุณเป็นแบบนี้บ้างรึเปล่า?

ไม่ค่อยมีสมาธิ นั่งเรียนในห้องก็ใจลอย อ่านหนังสือเองก็ใจลอย

จำอะไรไม่ค่อยได้ อ่านเท่าไหร่ก็จำไม่ได้

มีความเครียดและความกังวลทุกครั้งเมื่อเวลาสอบใกล้เข้ามา

และเมื่อลูกทำคะแนนได้ไม่ดี มันอาจทำให้คุณรู้สึกเหมือนว่าอนาคตลูกจะสั่นคลอน

แน่นอนว่าการเรียนเป็นสิ่งสำคัญ คุณจึงลูกส่งไปเรียนพิเศษเพิ่ม เรียนเยอะๆ

แต่หลายๆครั้งผลลัพธ์ก็ไม่ดีขึ้น หนำซ้ำยังแย่ลงด้วย เพราะน้องเริ่มเครียดหนักกว่าเดิม

นั่นเป็นเพราะคุณไม่ได้แก้ปัญหาที่ต้นเหตุ

ผมมีเพื่อนหลายคนที่สอบติดคณะดีๆ ในมหา’ลัยดังๆ โดยที่พวกเขาแทบไม่ได้เรียนพิเศษเลย

เพราะที่บ้านไม่มีเงินมากพอจะส่งไปเรียนพิเศษ

ผมเชื่อว่าคุณเองก็น่าจะมีเพื่อนแบบนี้อยู่บ้างเหมือนกัน

แต่ทำไมพวกเขายังเรียนได้ดี?

สาเหตุที่ทำให้น้องมีปัญหาเรื่องการเรียน

สาเหตุข้อแรก น้องไม่มีเหตุผลในการเรียน ไม่รู้จะเรียนไปทำไม

คนเราไม่ว่าจะวางแผนไว้ดีแค่ไหน แต่ถ้าไม่ลงมือทำก็ไร้ความหมาย

สาเหตุหลักของการไม่ลงมือทำคือ เราไม่มีเหตุผลที่สำคัญพอในการบรรลุเป้าหมายนั้น

มีเด็ก 2 คน อยากเป็นหมอเหมือนกัน ผมถามน้องๆที่ผมสอนว่าพวกเขาคิดว่าเด็กคนไหนมีโอกาสเป็นหมอได้มากกว่ากันระหว่าง

เด็กคนที่หนึ่งที่อยากเป็นหมอเพราะอยากรวย

กับเด็กที่สองที่อยากเป็นหมอเพราะอยากกลับไปรักษาแม่

100% ของน้องๆที่ผมสอน เชื่อว่าเด็กที่อยากกลับไปรักษาแม่ จะสอบเข้าหมอได้ แม้ว่าเด็กคนนี้จะมี IQ น้อยกว่า และฐานะทางบ้านแย่กว่าเด็กคนแรกก็ตาม

สาเหตุข้อสอง น้องมี Mindset ที่ไม่ถูกต้อง

ถ้าน้องมีวิธีคิดที่ไม่ถูกต้อง ไม่ว่าน้องจะมีเครื่องมือที่ดีขนาดไหน น้องก็จะไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้เต็มที่

เช่น ถ้าน้องเชื่อว่าตัวเป็นคนความจำไม่ดี น้องจะไม่มีทางพัฒนาความจำของตัวเองได้เลย

สาเหตุข้อที่สาม คือน้องไม่มีวิธีการที่ถูกต้อง

โรงเรียนสอนความรู้ต่างๆให้กับน้องๆ แต่ไม่เคยสอนวิธีการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพให้ก่อน

ถ้าเราอยากตัดต้นไม้ และเรามีขวานทื่อๆอยู่ 1 เล่ม สิ่งแรกที่เราควรทำคือไม่ใช่การตัดต้นไม้

แต่เป็นการนั่งลงลับคมให้ขวานเล่มนั้น

การที่น้องได้ผลสอบไม่ดี จริงๆแล้วไม่ใช่ความผิดของน้องคนเดียว

แต่เป็นเพราะน้องยังไม่รู้จักวิธีการที่ดีกว่า

ในคอร์ส “Brain Booster”

ตลอดเวลา 4 สัปดาห์ผมจะสอนให้น้องๆ มีวิธีคิดและวิธีการที่ถูกต้องในการเรียนรู้

สิ่งที่น้องจะได้รับ

อ่านเร็วขึ้นอย่างน้อย 2-3 เท่า

เพิ่มความเข้าใจจากการอ่าน

สร้างสมาธิในการอ่าน

พัฒนาความจำอย่างก้าวกระโดด

จำศัพท์ใหม่ๆอย่างแม่นยำ

นำเสนอหน้าชั้นแบบไม่ต้องดูโน๊ต

จำตัวเลขที่สำคัญ เช่น ค่าตัวแปรหรือวันสำคัญต่างๆ ฯลฯ

ตั้งเป้าหมาย สร้างแรงกระตุ้น

Mindset ที่สำคัญสำหรับการเรียนรู้และใช้ชีวิต

หลักการทำงานของคอร์ส Brain Booster

คอร์สนี้เป็นการพัฒนาความสามารถในการเรียนรู้ด้วย NLP

วิธีคิดสำคัญกว่าวิธีการ

เราเริ่มจากการสร้างวิธีคิดที่ถูกต้อง เพื่อให้น้องสามารถนำวิธีการไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถ้าปราศจากวิธีคิดที่ถูกต้อง ไม่ว่าวิธีการจะดีแค่ไหนก็ไม่มีความหมาย

หลักการทำงานของความจำ

ปกติถ้าเราอยากจำอะไร เราจะใช้วิธีการท่องจำ การที่เราต้องอ่านทวนข้อมูลนั้นซ้ำๆ หลายๆรอบ นั่นเป็นวิธีการที่ช้าและไม่มีประสิทธิภาพ มันใช้พลังมากและยังทำให้เราเครียดด้วย

ถ้าเราอยากใช้วิธีการที่เร็วกว่าและมีประสิทธิภาพมากกว่า เราต้องเข้าใจก่อนว่าคุณภาพของข้อมูลที่เราใส่เข้าไปในสมองนั้น เป็นตัวกำหนดว่าคุณจะสามารถเอาข้อมูลนั้นออกมาใช้ได้หรือไม่

คุณภาพสำคัญกว่าความถี่

คุณภาพของข้อมูลคืออะไร? มนุษย์เรารับข้อมูลผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5 คือ รูป, รส, กลิ่น, เสียง, สัมผัส

การใส่ข้อมูลที่ดีนั้น เราต้องใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5 ร่วมกัน

การท่องจำซ้ำๆใช้เพียงประสาทสัมผัสการฟัง เราจึงต้องทำซ้ำเป็นเวลานาน กว่าจะจำอะไรได้สักอย่างหนึ่ง

อยากอ่านให้เร็วต้องทำอย่างไร?

ตั้งแต่เล็ก ตอนครูสอนให้เราหัดอ่านหนังสือ ครูจะให้เราอ่านออกเสียงออกมาดังๆ เพื่อให้ครูรู้ว่าเราอ่านได้

แต่พอเราอ่านหนังสือคนเดียว เรากลับเอาวิธีการที่ครูสอนมาใช้ด้วย เราอ่านออกเสียงในใจ…

นั่นทำให้การอ่านของเราเร็วได้แค่ความเร็วในการออกเสียงของเราเท่านั้น

ความจริงคุณสามารถเข้าใจสิ่งที่คุณอ่าน โดยไม่ต้องออกเสียงออกมา ถ้าคุณขับรถไปเจอป้ายที่เขียนว่า “หยุด” คุณเข้าใจว่าคุณต้องชะลอรถให้ช้าลง โดยที่คุณไม่ต้องออกเสียงด้วยซ้ำ

คอร์สนี้จะสอนให้น้องๆสามารถเรียนรู้ได้เร็วขึ้น และจำได้มากขึ้น

หัวข้อการสอน

  1. ปรับวิธีคิดด้วย Learning Mindsets 10 ข้อ
  2. Basic Association พื้นฐานและการนำไปใช้
  3. เทคนิคการจำ List ที่ต้องใช้สอบ
  4. การนำเสนอหน้าชั้นโดยไม่ต้องดูโน๊ต
  5. วิธีท่องศัพท์ให้ไม่มีวันลืม
  6. การจำ Facts ต่างๆ เช่นวิชาภูมิศาสตร์, ประวัติศาสตร์
  7. การจำตัวเลขต่างๆ
  8. วิธีพัฒนาความเร็วในการอ่านให้เพิ่มขึ้นอย่างน้อย 2-3 เท่า
  9. วิธีพัฒนาความเข้าใจในการอ่าน
  10. เทคนิคการจำสิ่งที่อ่าน
  11. เทคนิคลับ: การเอาโน๊ตเข้าห้องสอบ แบบไม่ผิดกฏโรงเรียน

คอร์สนี้เหมาะสำหรับ

น้องที่ต้องการเพิ่มเกรด โดยใช้เวลาน้อยลง ลดความเครียดและความกังวลให้น้อยลง

น้องที่อยากมีแต้มต่อในการเรียนรู้มากกว่าคนทั่วไป

น้องที่เรียนดีอยู่แล้ว แต่อยากเพิ่มประสิทธิภาพในการเรียน

น้องที่มีอายุ 12 ปี ขึ้นไป

ฟังเสียงจากน้องที่เข้าเรียน

บรรยากาศในห้องเรียน

ประวัติผู้สอน

ตั้งแต่เด็กจนโต ผมไม่เคยชอบการเรียนหนังสือเลย ผมเป็นเด็กติดเกมส์ หนักสุดเคยเล่นติดต่อกัน เกือบ 18 ชั่วโมง

เมื่อโตขึ้น ผมได้พบกับวิธีการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย NLP มันช่วยพัฒนาการเรียนรู้ให้ผมและน้องๆที่ผมสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เป็นเวลา 7 ปีมาแล้ว ที่ผมมีโอกาสอยู่ในแวดวงการสอนผู้คนเพื่อสร้างผลลัพธ์ในชีวิต

นั่นทำให้ ผมอยากช่วยให้น้องๆสามารถผ่านความท้าทายจากการเรียนได้อย่างง่ายดายที่สุด ด้วยเทคนิคการเรียนรู้ด้วย NLP และ Best Practice ต่างๆจากทั่วโลก

การศึกษาและประสบการณ์ทำงาน

ปริญญาตรี วิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

NLP Trainer and Consultant จาก NLP University

ผู้ก่อตั้งสถาบันพัฒนาทักษะการเรียนรู้ Brain Booster

ที่ปรึกษาด้านจิตวิทยา สมาคมผู้บริหารสถานศึกษาเอกชนนอกระบบ

อดีตผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Leading Performance (Thailand) หรือ (Life University)

รายละเอียดคอร์ส

คอร์สนี้เหมาะสำหรับ น้องๆอายุ 12-18 ปี (ไม่จำเป็นต้องมีพื้นฐานมาก่อน)

กันยายน 2563

1. รอบเช้า เรียน 4 ครั้ง เวลา 09:00-12:00 น. วันอาทิตย์ที่ 6,13,20,27 กันยายน (เต็ม)2. รอบบ่าย เรียน 4 ครั้ง เวลา 13:00-16:00 น. วันอาทิตย์ที่ 6,13,20,27 กันยายน (เต็ม)

ตุลาคม 2563

3. รอบเช้า เรียน 4 ครั้ง เวลา 09:00-12:00 น. วันเสาร์ที่ 3,10,17,24 ตุลาคม  (เต็ม)

4. รอบบ่าย เรียน 4 ครั้ง เวลา 13:00-16:00 น. วันเสาร์ที่ 3,10,17,24 ตุลาคม (เหลือ 25 ที่)  (เต็ม)

พฤศจิกายน 2563

5. รอบเช้า เรียน 4 ครั้ง เวลา 9.00 – 12.00 น. วันเสาร์ที่ 7, 14, 21, 28 พฤศจิกายน

6. รอบบ่าย เรียน 4 ครั้ง เวลา 13.00 – 16.00 น. วันเสาร์ที่ 7, 14, 21, 28 พฤศจิกายน

สถานที่:อาคาร KX >> https://goo.gl/maps/W26bFqEeb4KJyBir9

จำกัดนักเรียนคลาสละ 25 คนเท่านั้น ปรับตามนโยบาย Social Distancing

ราคา 15,990 บาท เหลือ 9,990 บาท

โปรโมชั่นพิเศษ! เพียง 7,990 บาท เมื่อชำระเงินภายใน 31 ต.ค.

ติดต่อสอบถามได้ที่ โทร: 098-828-8229

Line id: @brainbooster.io หรือคลิ๊กที่ปุ่มด้านล่าง

ฉันพร้อมแล้วที่จะให้ลูกมีแต้มต่อในการเรียน คลิ๊กที่นี่เพื่อพูดคุยกับเรา

ใครว่าการศึกษาในห้องเรียนไม่สำคัญอีกต่อไป

หลายคนอาจบอกว่าคนสำเร็จของโลกไม่เห็นจะต้องเรียนหนังสือลองดู Mark Zuckerberg, Steve Jobs, Bill Gates สิ คนเหล่านี้เรียนไม่จบแต่ก็เปลี่ยนแปลงโลกได้

แล้วใครบอกว่าคนที่เรียนหนังสือได้ดีเปลี่ยนแปลงโลกไม่ได้?

คนสำเร็จที่เรียนหนังสือและใช้ความรู้จากสิ่งที่เรียนมาในการสร้างตัวก็มีมากมาย

Phil Knight ผู้ก่อตั้ง Nike เรียนจบ MBA

Warren Buffet นักลงทุนเบอร์ 1 ของโลก จบปริญญา แถมได้เรียนรู้หลักการลงทุนเน้นคุณค่าจาก Benjamin Graham อาจารย์ในมหาวิทยาลัย

ไม่ใช่ความผิดของน้อง ถ้าวันนี้น้องยังทำได้ไม่ดีพอที่โรงเรียน นั่นเป็นเพราะพวกเขาไม่เคยรู้มาก่อน ว่ามีวิธีที่ดีกว่า เร็วกว่า และมีประสิทธิภาพมากกว่า

ถ้าความรู้คือพลัง การเรียนรู้อย่างรวดเร็วคือต้นกำเนิดของพลังนั้น

นอกจากการนำไปใช้พัฒนาเรื่องการเรียนแล้ว น้องๆยังสามารถเอาทักษะนี้ไปใช้ในการเรียนรู้เรื่องอื่นๆนอกโรงเรียนได้ด้วย

ไม่ว่าน้องจะสนใจเรื่องอะไร น้องจะสามารถเรียนรู้สิ่งเหล่านั้นได้อย่างรวดเร็ว

ยิ่งเรียนรู้และลงมือทำมากเท่าไหร่ น้องก็จะสามารถเข้าใกล้ความฝันของตัวเองมากขึ้นเท่านั้น

ฉันพร้อมแล้วที่จะให้ลูกมีแต้มต่อในการเรียน คลิ๊กที่นี่เพื่อพูดคุยกับเรา